มหากาพย์วีซ่าเรียนต่อ UK มีแบบไหนบ้าง ต้องเตรียมตัวยังไง บทความนี้มีคำตอบ!
UK Student Visa
เรื่องวีซ่าเรียนต่อใน UK น่าจะทำให้น้อง ๆ หลายคนกังวลกับการเตรียมตัวอยู่ไม่น้อย เพราะการทำวีซ่าถือเป็นอีกเรื่องที่สำคัญมากกกกก ทั้งการต้องเตรียมเอกสารและวางแผนให้ได้วีซ่าทันเวลา แถมวีซ่าแต่ละประเภท ก็มีรายละเอียดเยอะมาก ไหนจะเงื่อนไขพิเศษและข้อยกเว้นเพิ่มเติมอีกเต็มไปหมด
ในบทความนี้ พี่ ๆ BACCOM เลยขนเอาข้อมูลสำคัญทั้งหมดที่จะต้องรู้ พร้อม Tips พิเศษในการสมัครวีซ่ามาให้ แบบไม่ต้องไปหาเพิ่มให้วุ่นวาย ถ้าพร้อมแล้ว ไปอ่านกันเลย!
ประเภทวีซ่าสำหรับเรียนต่อใน UK
ประเภทของการทำวีซ่า จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาของคอร์สเรียนที่น้องสมัครไว้ หรือตามระยะเวลาของคอร์สที่น้องได้รับ offer จากมหาวิทยาลัย ซึ่งจะแบ่งเป็น 4 ประเภท คือ
- Standard Visitor Visa
- Short-Term Study Visa
- Student Visa
- Child Student Visa
รายละเอียดประเภทวีซ่าสำหรับเรียนต่อใน UK 🇬🇧
1. Standard Visitor Visa หรือ วีซ่าท่องเที่ยวใน UK
หลายคนอาจจะเข้าใจว่า วีซ่าท่องเที่ยวมีไว้เพื่อมาเที่ยวหรือมา Business Trip เท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ว วีซ่าชนิดนี้ถูกใช้เป็นประเภทวีซ่าสำหรับนักเรียนที่สมัครเรียนระยะสั้นด้วย เพราะฉะนั้น ระวังสับสนหรือเข้าใจผิดเพราะชื่อวีซ่านะคะ :D
เงื่อนไขสำหรับการสมัครวีซ่าประเภทนี้
- สมัครเรียนในคอร์สที่มีระยะเวลาเรียนไม่เกิน 6 เดือน
- จะต้องสมัครเรียนกับสถาบันที่ทางการของ UK รับรอง (Accredited Institution) เท่านั้น เพื่อการันตีว่าตัวสถาบันและหลักสูตรมีคุณภาพและมาตรฐาน โดยน้อง ๆ สามารถเช็คสถาบันที่ได้รับการรับรองได้ที่ Accreddited UK Institutions
ข้อควรรู้สำหรับผู้ที่ถือ Standard Visitor Visa
- กรณี่ที่ต้องการลงเรียนคอร์สสันทนาการต่าง ๆ เช่น คอร์สสอนเต้น จะต้องเป็นคอร์สที่มีระยะเวลาเรียนไม่เกิน 30 วันเท่านั้น
- ถ้าสนใจทำกิจกรรมอาสา น้อง ๆ สามารถเข้าร่วมกับหน่วยงานการกุศลที่ได้รับการจดทะเบียนได้ ซึ่งจะต้องเป็นกิจกรรมที่ไม่เกิน 30 วันเช่นกัน
- ไม่สามารถทำงานกับบริษัทหรือรับว่าจ้างงานได้ ไม่ว่าจะได้ค่าตอบแทนหรือไม่ได้ค่าตอบแทนก็ตาม
- ไม่ได้สิทธิ์ในการรับเงินสงเคราะห์จากรัฐบาล (Public funds) ซึ่งเป็นเงินที่ทางรัฐบาล UK ช่วยสนับสนุนพลเมือง เช่น เงินช่วยคนที่มีรายได้น้อย หรือเงินช่วยเรื่องที่พักอาศัย
- ไม่สามารถต่ออายุวีซ่าได้
เอกสารที่ใช้ในการสมัคร
- พาสปอร์ตที่อายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือไม่หมดอายุระหว่างที่อยู่ในอังกฤษ และพาสปอร์ตเล่มเก่า (ถ้ามี)
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- หลักฐานแสดงสถานะทางการเงินย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน
- รายละเอียดที่พักในอังกฤษ (น้อง ๆ สามารถบอกเป็นรายละเอียดวันและเวลาที่จะมาพักได้นะคะ ไม่จำเป็นจะต้องจ่ายเงินค่าที่พักไปก่อน หรือแนะนำว่าจองที่พักแบบที่สามารถยกเลิกได้ฟรีไว้ก่อนก็ได้ค่ะ เพราะเรายังไม่รู้ว่าวีซ่าเราจะผ่านเมื่อไหร่)
- หนังสือรับรองจากสถาบันการศึกษา
ค่าใช้จ่ายในการทำวีซ่า
- Standard Visitor Visa อายุ 6 เดือน : 100 ปอนด์
รายละเอียดการสมัคร
น้อง ๆ สามารถขอวีซ่าท่องเที่ยวได้ไม่เกิน 3 เดือนก่อนเดินทาง และจะใช้เวลาพิจารณาวีซ่าประมาณ 3 สัปดาห์ หลังจากยื่นสมัครเรียบร้อยแล้ว
2. Short-Term Study Visa หรือวีซ่านักเรียนระยะสั้น
วีซ่าประเภทนี้ เป็นวีซ่าเพื่อการอบรมระยะสั้น ทำวิจัย การสมัครคอร์สเรียนภาษาอังกฤษระยะสั้น หรือใช้สำหรับหลักสูตรของมหาวิทยาลัยที่กำหนดให้นักศึกษามาลงเรียนคอร์สภาษาอังกฤษใน UK ก่อนการเริ่มเรียนจริงเพื่อเป็นการปรับพื้นฐาน
เงื่อนไขสำหรับการสมัครวีซ่าประเภทนี้
- ระยะเวลาของคอร์สเรียนหรือการทำวิจัยจะต้องอยู่ระหว่าง 6 -11 เดือน
- สถาบันที่เรียนจะต้องเป็นสถาบันที่ได้รับการรับรอง (Accreditted Institution) เท่านั้น โดยน้อง ๆ สามารถเช็คสถาบันที่ได้รับการรับรองได้ที่ Accreddited UK Institutions
ข้อควรรู้สำหรับผู้ถือ Short-Term Study Visa
- น้อง ๆ สามารถอยู่ในอังกฤษต่อได้อีก 30 วัน หลังจากคอร์สเรียนภาษาสิ้นสุดลง แต่จะต้องรวมระยะเวลาที่อาศัยในอังกฤษทั้งหมดแล้วไม่เกิน 11 เดือน
- คอร์สที่เรียนจะต้องเป็นคอร์สภาษาอังกฤษที่ลงไว้เท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนไปเรียนคอร์สอื่นหรือเปลี่ยนโรงเรียนได้
- ไม่สามาถทำงานกับบริษัทหรือรับว่าจ้างงานได้ ไม่ว่าจะมีค่าตอบแทนหรือไม่ก็ตาม รวมถึงห้ามทำธุรกิจด้วย
- ไม่ได้สิทธิ์ในการรับเงินสงเคราะห์จากรัฐบาล (Public funds)
- ไม่สามารถต่ออายุวีซ่าได้
เอกสารที่ใช้ในการสมัคร
- พาสปอร์ตที่อายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือไม่หมดอายุระหว่างที่อยู่ในอังกฤษ และพาสปอร์ตเล่มเก่า (ถ้ามี)
- ผลตรวจปอด (TB test) จาก IOM
- หลักฐานรับรองจากสถานศึกษาในอังกฤษ เช่น Letter of Acceptance ที่ระบุชื่อคอร์ส ระยะเวลาเรียน และค่าใช้จ่าย
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- หลักฐานแสดงสถานะทางการเงินย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน รวมถึงหลักฐานที่แสดงว่าเรามีเงินเพียงพอที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตลอดการอยู่ในอังกฤษได้
- รายละเอียดที่พักในอังกฤษ (น้อง ๆ สามารถบอกเป็นรายละเอียดวันและเวลาที่จะมาพักได้นะคะ ไม่จำเป็นจะต้องจ่ายเงินค่าที่พักไปก่อน หรือแนะนำว่าจองที่พักแบบที่สามารถยกเลิกได้ฟรีไว้ก่อนก็ได้ค่ะ เพราะเรายังไม่รู้ว่าวีซ่าเราจะผ่านเมื่อไหร่)
เอกสารเพิ่มเติม ในกรณีพิเศษ
- กรณีที่มีคนสนับสนุนทางการเงิน
หากน้อง ๆ ได้รับการสนับสนุนเรื่องค่าใช้จ่ายจากพ่อแม่ หรือผู้ปกครอง จะต้องใช้เอกสาร 3 อย่าง คือ
- หนังสือยินยอมจากพ่อแม่ หรือผู้ปกครองทางกฎหมาย (Letter of Consent)
- เอกสารแสดงความสัมพันธ์ เช่น สูติบัตร ทะเบียนรับลูกบุญธรรม หรือเอกสารรับรองสิทธิในการเลี้ยงดูจากศาล (ในกรณีที่ผู้ปกครองไม่ใช่พ่อแม่)
- เอกสารทางการเงินของพ่อแม่หรือผู้ปกครองตามกฎหมาย
- กรณีสำหรับน้อง ๆ ที่อายุไม่ถึง 18 ปี
ถ้าน้อง ๆ เดินทางไปคนเดียว จะต้องเตรียมเอกสารแสดงความยินยอมจากพ่อแม่หรือผู้ปกครองตามกฎหมาย ที่ระบุความยินยอม 3 อย่าง คือ
- การสมัครวีซ่า
- การอยู่อาศัยใน UK เช่น ที่อยู่ ข้อมูลส่วนตัวของคนที่จะดูแลน้อง ๆ ตอนอยู่ที่ UK พร้อมระบุความสัมพันธ์ระหว่างตัวน้องกับผู้ดูแล
- การเดินทางไป UK
ส่วนน้อง ๆ ที่มีคนเดินทางไปเป็นเพื่อนด้วย จะต้องระบุชื่อของผู้ร่วมเดินทางในขั้นตอนการสมัครวีซ่าด้วยนะคะ โดยจะมีผู้ร่วมเดินทางไปได้ไม่เกิน 2 คนค่า
ค่าใช้จ่ายในการทำวีซ่า
- Short-Term Study Visa : 200 ปอนด์
- ค่าบริการทางการแพทย์ (Healthcare Surcharge) : 470 ปอนด์
เป็นค่าธรรมเนียมที่เก็บล่วงหน้า เพื่อเป็นสวัสดิการในการเข้ารับบริการทางการแพทย์ของอังกฤษ (National Health Service) ได้ ซึ่งต้องจ่ายพร้อมกันตอนสมัครวีซ่าออนไลน์ และต้องชำระด้วยบัตรเครดิตหลังกรอกรายละเอียดและอัปโหลดไฟล์เอกสาร์ในลิงก์สมัครวีซ่าเท่านั้นนะคะ
รายละเอียดการสมัคร
สามารถยื่นขอวีซ่าได้ไม่เกิน 3 เดือนก่อนออกเดินทางมาอังกฤษ และจะใช้เวลาพิจารณาวีซ่าประมาณ 3 สัปดาห์ หลังจากยื่นสมัครเรียบร้อยแล้ว
3. Student Visa หรือวีซ่านักเรียน
มาถึงวีซ่าฮอตฮิตสำหรับเด็กไทยหลาย ๆ คนที่สนใจไปเรียนต่อที่อังกฤษ อย่างวีซ่านักเรียน (Student Visa) หรือที่รู้จักในชื่อเดิมคือ Tier 4 (General) Student Visa กันบ้าง วีซ่าประเภทนี้จะมีรายละเอียดพิเศษเยอะกว่าวีซ่าอื่น ๆ อยู่พอสมควร เพราะฉะนั้นขอให้น้อง ๆ อย่าเพิ่งท้อ สูดหายใจ แล้วไปอ่านกันต่อค่ะ!
เงื่อนไขสำหรับการสมัครวีซ่าประเภทนี้
- ระยะเวลาของคอร์สเรียนมากกว่า 11 เดือนขึ้นไป (ส่วนมากนักเรียนปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอกจะไป UK ด้วยวีซ่าประเภทนี้)
- สถาบันที่เรียนจะต้องเป็นสถาบันที่ได้รับการรับรอง (Accreditted Institution) เท่านั้น โดยน้อง ๆ สามารถเช็คสถาบันที่ได้รับการรับรองจากลิงก์นี้เลยยย Accreddited UK Institutions
ข้อควรรู้สำหรับผู้ถือ Student Visa
- น้อง ๆ สามารถทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ในสหพันธ์นักศึกษา (Student Union Sabbatical Officer) ได้
- ไม่ได้สิทธิ์ในการรับเงินสงเคราะห์จากรัฐบาล (Public funds)
- สามารถทำงาน part-time เพื่อหารายได้เสริมได้ แต่จะต้องไม่เกิน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในระหว่างเปิดเทอม และไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในช่วงปิดเทอมเท่านั้น
- ไม่สามารถทำงานประจำได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น น้อง ๆ จะรู้ละเอียดชัดเจนขึ้นว่าเราทำอะไรได้และไม่ได้บ้างหลังจากได้วีซ่าเรียบร้อยแล้วค่ะ
เอกสารที่ใช้ในการสมัคร
- พาสปอร์ตที่อายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือไม่หมดอายุระหว่างที่อยู่ในอังกฤษ และพาสปอร์ตเล่มเก่า (ถ้ามี)
- ผลตรวจปอด (TB test) จาก IOM
- จดหมายตอบรับเข้าเรียนจากสถานศึกษาหรือ Confirmation of Acceptance for Studies (CAS)
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- ใบรับรองผลการศึกษา (Transcript)
- ผลคะแนนการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ โดยสามารถศึกษารายละเอียดว่าสอบอันไหนได้บ้างจาก การทดสอบภาษาอังกฤษที่ UK ยอมรับ และ เกณฑ์ระดับภาษาอังกฤษ
- ใบรับรอง ATAS (Academic Technology Approval Scheme) หากสาขาที่เรียนต้องใช้
- เอกสารยินยอมจากผู้สนับสนุนทางการเงิน
เอกสารทางการเงินและจำนวนเงินที่ต้องมีในบัญชี
ถึงแม้ว่าเราไม่จำเป็นต้องยื่นเอกสารยืนยันสถานภาพทางการเงินในขั้นตอนการขอวีซ่าแล้ว แต่เราก็ควรจะมีไว้ในกรณีที่ถูกขอตรวจระหว่างการพิจารณาอนุมัติวีซ่า จะได้ไม่เป็นปัญหาทีหลัง โดยเอกสารทางการเงินควรแสดงย้อนหลังอย่างน้อย 1 เดือนก่อนไปขอวีซ่าค่า
นอกจากเงินที่ต้องเตรียมไว้สำหรับค่าคอร์สเรียน 1 ปีการศึกษา หรือคิดเป็น 9 เดือนแล้ว ทาง เว็บไซต์รัฐบาล UK ได้คำนวณค่าครองชีพไว้คร่าว ๆ โดยแยกเป็น
- เรียนอยู่ในลอนดอน จะต้องใช้เงินประมาณ 1,334 ปอนด์/เดือน
- เรียนอยู่นอกลอนดอน จะต้องใช้เงินประมาณ 1,023 ปอนด์/เดือน
เพราะฉะนั้น เมื่อรวมค่าคอร์สเรียนกับค่าครองชีพ 9 เดือน น้อง ๆ ก็จะได้จำนวนเงินที่ควรมีไว้ในบัญชีของตัวเองแล้ว หรือถ้าในกรณีที่มีผู้สนับสนุนทางการเงิน น้อง ๆ จะต้องฝากเข้าบัญชีได้แค่ของคุณพ่อหรือคุณแม่ (ตามกฏหมาย) เท่านั้นนะ
เอกสารเพิ่มเติม ในกรณีพิเศษ
- กรณีที่มีคนสนับสนุนทางการเงิน
หากน้อง ๆ ได้รับการสนับสนุนเรื่องค่าใช้จ่าย จะต้องมาจากพ่อแม่หรือผู้ปกครองตามกฎหมายเท่านั้น เอกสารที่ใช้มี 3 อย่าง คือ
- หนังสือยินยอมจากพ่อแม่ หรือผู้ปกครองทางกฎหมาย (Letter of Consent)
- เอกสารแสดงความสัมพันธ์ เช่น สูติบัตร ทะเบียนรับลูกบุญธรรม หรือเอกสารรับรองสิทธิในการเลี้ยงดูจากศาล (ในกรณีที่ผู้ปกครองไม่ใช่พ่อแม่)
- เอกสารทางการเงินของพ่อแม่หรือผู้ปกครองตามกฎหมาย
- กรณีสำหรับน้อง ๆ ที่อายุไม่ถึง 18 ปี
น้อง ๆ จะต้องเตรียมเอกสารแสดงความยินยอมจากพ่อแม่หรือผู้ปกครองตามกฎหมายที่ระบุความยินยอม 3 อย่าง คือ
- การสมัครวีซ่า
- การอยู่อาศัยใน UK เช่น ที่อยู่ ข้อมูลส่วนตัวของคนที่จะดูแลน้อง ๆ ตอนอยู่ที่ UK พร้อมระบุความสัมพันธ์ระหว่างตัวน้องกับผู้ดูแล
- การเดินทางไป UK
ค่าใช้จ่ายในการทำวีซ่า
- Student Visa : 363 ปอนด์ (กรณีสมัครวีซ่านอกประเทศอังกฤษ)
- Student Visa : 490 ปอนด์ (กรณีสมัครหรือขอต่อวีซ่าที่ประเทศอังกฤษ)
- ค่าบริการทางการแพทย์ (Healthcare Surcharge) : 470 ปอนด์
เป็นค่าธรรมเนียมที่เก็บล่วงหน้า เพื่อเป็นสวัสดิการในการเข้ารับบริการทางการแพทย์ของอังกฤษ (National Health Service) ได้ ซึ่งต้องจ่ายพร้อมกันตอนสมัครวีซ่าออนไลน์ และต้องชำระด้วยบัตรเครดิตหลังกรอกรายละเอียดและอัปโหลดไฟล์เอกสาร์ในลิงก์สมัครวีซ่าเท่านั้นนะคะ
รายละเอียดการสมัคร
สามารถยื่นขอวีซ่าได้ไม่เกิน 6 เดือนก่อนออกเดินทางมาอังกฤษ และจะใช้เวลาพิจารณาวีซ่าประมาณ 3 สัปดาห์ หลังจากยื่นสมัครเรียบร้อยแล้ว
4. Child Student Visa หรือวีซ่าสำหรับนักเรียนอายุ 4–17 ปี
วีซ่าประเภทนี้ มีชื่อเดิมคือ Tier 4 (Child) Student Visa โดยรวม ๆ จะมีรายละเอียดเหมือนวีซ่านักเรียน (Student Visa) เลย แต่วีซ่านี้จะเป็นวีซ่าสำหรับน้อง ๆ ที่อายุยังอยู่ระหว่าง 4–17 ปี แล้วอยากมาเรียน หรือคุณพ่อคุณแม่สนใจอยากให้มาเรียนต่อตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมัธยมในโรงเรียนเอกชนที่ประเทศอังกฤษค่า
เงื่อนไขสำหรับการสมัครวีซ่าประเภทนี้เงื่อนไขในการสมัครเรียน
- วีซ่าสำหรับน้อง ๆ ที่อายุยังอยู่ระหว่าง 4–17 ปี
- ระยะเวลาของคอร์สเรียนมากกว่า 11 เดือนขึ้นไป
- สถาบันที่เรียนจะต้องเป็นสถาบันที่ได้รับการรับรอง (Accreditted Institution) เท่านั้น โดยน้อง ๆ สามารถเช็คสถาบันที่ได้รับการรับรองจากลิงก์นี้เลยยย Accreddited UK Institutions
ข้อควรรู้สำหรับผู้ถือ Student Visa
- น้อง ๆ ที่อายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป สามารถทำงาน Part-time ได้ 10 ชั่วโมง/สัปดาห์ และทำงานแบบ Full-time ได้ตอนปิดเทอม แต่ไม่สามารถทำงานประจำหรือรับงานจ้างได้
- สามารถฝึกงานได้ ถ้ามีโปรแกรมฝึกงานอยู่ในหลักสูตรที่เรียน แต่ต้องฝึกไม่เกิน 50% ของเวลาในคอร์สเรียน
- ไม่สามารถลงเรียนคอร์สอื่นนอกโรงเรียนได้
- ไม่ได้สิทธิ์ในการรับเงินสงเคราะห์จากรัฐบาล (Public Funds)
เอกสารที่ใช้ในการสมัคร
- พาสปอร์ตที่อายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือไม่หมดอายุระหว่างที่อยู่ในอังกฤษ และพาสปอร์ตเล่มเก่า (ถ้ามี)
- ผลตรวจปอด (TB test) จาก IOM
- จดหมายตอบรับเข้าเรียนจากสถานศึกษาหรือ Confirmation of Acceptance for Studies (CAS)
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- เอกสารยินยอมจากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง และเอกสารแสดงความสัมพันธ์
- เอกสารยินยอมจากผู้สนับสนุนทางการเงิน
เอกสารทางการเงินและจำนวนเงินที่ต้องมีในบัญชี
รายละเอียดในส่วนนี้ จะคล้ายกับการขอวีซ่านักเรียน (Student Visa) ที่ไม่จำเป็นต้องยื่นเอกสารทางการเงินตอนขอวีซ่าแล้ว แต่เตรียมมาไว้เผื่อเวลาถูกขอตรวจก็จะดีกว่าค่ะ โดยเอกสารทางการเงินควรแสดงย้อนหลังอย่างน้อย 1 เดือนก่อนไปขอวีซ่าค่า
นอกจากเงินที่ต้องเตรียมไว้สำหรับค่าคอร์สเรียน 1 ปีการศึกษา หรือคิดเป็น 9 เดือนแล้ว ก็จะมีค่าที่พัก ซึ่งจะมีราคาและเงื่อนไขด้านการเงินแตกต่างไป ขึ้นอยู่กับว่าน้อง ๆ จะเลือกพักที่ไหน เช่น โรงเรียนประจำ อยู่กับผู้ดูแลหรือญาติ เป็นต้น
สำหรับน้อง ๆ ที่อายุ 16–17 ปีที่หาที่พักเอง ทางเว็บไซต์รัฐบาล UKได้คำนวณค่าครองชีพไว้คร่าว ๆ โดยแยกเป็น
- เรียนอยู่ในลอนดอน จะต้องใช้เงินประมาณ 1,334 ปอนด์/เดือน
- เรียนอยู่นอกลอนดอน จะต้องใช้เงินประมาณ 1,023 ปอนด์/เดือน
เพราะฉะนั้น เมื่อรวมค่าคอร์สเรียนกับค่าครองชีพ 9 เดือน น้อง ๆ ก็จะได้จำนวนเงินที่ควรมีไว้ในบัญชีของตัวเองแล้ว หรือถ้าในกรณีที่มีผู้สนับสนุนทางการเงิน น้อง ๆ จะต้องฝากเข้าบัญชีได้แค่ของคุณพ่อหรือคุณแม่ (ตามกฏหมาย) เท่านั้นนะ
ค่าใช้จ่ายในการทำวีซ่า
- Student Visa : 363 ปอนด์ (กรณีสมัครวีซ่านอกประเทศอังกฤษ)
- Student Visa : 490 ปอนด์ (กรณีสมัครหรือขอต่อวีซ่าที่ประเทศอังกฤษ)
- ค่าบริการทางการแพทย์ (Healthcare Surcharge) : 470 ปอนด์
เป็นค่าธรรมเนียมที่เก็บล่วงหน้า เพื่อเป็นสวัสดิการในการเข้ารับบริการทางการแพทย์ของอังกฤษ (National Health Service) ได้ ซึ่งต้องจ่ายพร้อมกันตอนสมัครวีซ่าออนไลน์ และต้องชำระด้วยบัตรเครดิตหลังกรอกรายละเอียดและอัปโหลดไฟล์เอกสาร์ในลิงก์สมัครวีซ่าเท่านั้นนะคะ
ส่วนราคาค่าบริการอาจจะปรับเปลี่ยนไปตามระยะเวลาของคอร์สเรียน น้อง ๆ สามารถเช็คราคาอัปเดตอีกทีจาก คำนวณค่า Healthcare Surcharge ได้เลยค่า
รายละเอียดการสมัคร
สามารถยื่นขอวีซ่าได้ไม่เกิน 6 เดือนก่อนคอร์สจะเริ่ม และใช้เวลาพิจารณาวีซ่าประมาณ 3 สัปดาห์ หลังยื่นขอวีซ่าเรียบร้อยแล้ว
BACCOM TIPS — เกร็ดความรู้เพิ่มเติม
1. น้อง ๆ ที่ถือ Short-Term Student Visa, Student Visa และ Child Student Visa จะได้สิทธิ์ถือบัตร BRP
บัตร BRP (Biometric Residence Permits) เป็นบัตรสำหรับคนที่จะย้ายมาอยู่ใน UK นานกว่า 6 เดือนขึ้นไป คล้ายกับบัตรประชาชนซึ่งจะต้องมีพกติดตัวไว้ตลอดเวลาที่อยู่ใน UK เพื่อแสดงสถานะ Citizenship ชั่วคราว และเป็นบัตรยืนยันว่าน้อง ๆ มีสิทธิเทียบเท่ากับ UK Citizen ระหว่างการอยู่อาศัยตลอดระยะเวลาของวีซ่า โดยการยื่นขอบัตร BRP ถือเป็นส่วนหนึ่งของการยื่นคำร้องขอวีซ่าเข้า UK อยู่แล้ว โดยทางศูนย์ยื่นคำร้องขอวีซ่า (VFS) จะทำการเก็บข้อมูลลายนิ้วมือและรูปถ่ายของผู้สมัคร (Biometric) ไว้ก่อนล่วงหน้าในวันที่ไปทำเรื่องขอวีซ่า แล้วค่อยไปติดต่อรับบัตรหลังจากเดินทางถึง UK ส่วนคนที่มาเรียนภายในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือนอย่างน้อง ๆ ที่ถือวีซ่าท่องเที่ยว (Standard Visitor Visa) ก็จะไม่ได้รับบัตร BRP นี้ค่า
2. อยากต่อวีซ่านักเรียน ทำได้มั้ย ?
นักเรียนที่สามารถต่อวีซ่าได้ จะเป็นน้อง ๆ ที่ถือวีซ่านักเรียน Student Visa หรือ Tier 4 (General) Student Visa อยู่ และน้อง ๆ ที่ถือ Child Student Visa หรือ Tier 4 (Child) Student Visa แต่การจะต่อวีซ่าได้นั้น จะต้องเป็นการต่อวีซ่าเพื่อสมัครเรียนต่อในคอร์สที่มี Academic Level สูงกว่าคอร์สเดิม โดยจะต้องใช้ CAS และเอกสารยืนยันว่าคอร์สที่จะเรียนมีระดับสูงกว่าคอร์สเดิมค่ะ
น้อง ๆ สามารถยื่นขอต่อวีซ่าทางออนไลน์ตอนที่อยู่ UK และจ่ายค่าธรรมเนียม 490 ปอนด์รวมกับค่าบริการทางการแพทย์ได้เลยโดยไม่ต้องกลับมาที่ประเทศไทย ซึ่งจะต้องทำเรื่องขอต่อวีซ่าภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือนก่อนเรื่มคอร์สใหม่ จากนั้นก็ทำ Biometric Information ได้ที่ศูนย์บริการ UK Visa and Citizenship Application Services (UKVCAS) หรือจะใช้แอปพลิเคชั่น UK Immigration: ID Check ก็ได้เลยยย
3. จะทำงานต่อหลังเรียนจบ ต้องถือวีซ่าไหน ?
น้อง ๆ นักเรียนปริญญาตรี โท หรือเอก ที่ถือ Student Visa สามารถหางานทำได้ตั้งแต่ช่วงที่เรียนตามข้อกำหนดของวีซ่านี้เลย และสามารถให้หัวหน้างานทำเรื่องให้ Sponsorship Visa ในการทำงานต่อได้ ส่วนน้อง ๆ คนไหนที่ยังไม่มีงานรับรอง แต่อยากมีโอกาสได้อยู่ที่ UK เพื่อหางานทำต่อ ตอนนี้ทางรัฐบาลอังกฤษได้มีประเภทวีซ่าแบบใหม่เพิ่มพิเศษขึ้นมา อย่าง Graduate Visa หรือ Post-Study Visa เพื่อให้โอกาสน้อง ๆ นักเรียน (Student Visa) ที่เรียนจบตั้งแต่ระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่านั้นสามารถถือวีซ่าประเภทนี้เพื่ออาศัยอยู่ต่อ และลองหางานทำใน UK อีกอย่างน้อย 2 ปีโดยที่ยังไม่ต้องมีงานรองรับชัดเจน :D สำหรับใครที่สนใจวีซ่าตัวใหม่นี้เพิ่มเติม สามารถอ่านต่อได้ที่นี่เลย Post-Study WORK VISA สำหรับนักศึกษาต่างชาติในสหราชอาณาจักร
4. ขอเอกสารภาษาอังกฤษได้ที่ไหน ?
สำหรับเอกสารพวกสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านฉบับภาษาอังกฤษ น้อง ๆ สามารถติดต่อขอได้ที่สำนักงานเขต หรือที่ว่าการอำเภอตามที่อยู่ของน้อง ๆ ได้เลยค่า ดูวิธีการขอและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เอกสารการทะเบียนภาษาอังกฤษ — กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
ส่วนเอกสารทางการเงินก็สามารถขอที่ธนาคาร หรือ Internet Banking ได้ โดยธนาคารแต่ละที่อาจจะมีเงื่อนไขการขอเอกสารแตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นน้อง ๆ ลองสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมของแต่ละธนาคารที่ใช้บริการอยู่นะคะ จะได้เตรียมเอกสารได้อย่างครบถ้วน
นอกจากนี้ยังมีเอกสารเพิ่มเติมที่ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ แต่ไม่ได้อยู่ในลิสต์เอกสารการทะเบียนที่กรมการกงสุลให้บริการ และไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการเงิน เช่น เอกสารยินยอมให้เดินทางจากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง สำหรับทำเรื่องขอวีซ่า Child Student Visa และเอกสารอื่น ๆ เป็นต้น สำหรับใครที่มีบริษัทรับแปลเอกสารสำหรับทำวีซ่าอยู่แล้ว ก็สามารถติดต่อให้ช่วยแปลได้เลยค่ะ แต่ถ้าใครที่ยังไม่มีที่ที่ไว้ใจได้ก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ น้อง ๆ สามารถติดต่อพี่ ๆ BACCOM มาได้เลย เพราะเรามีบริการรับแปลเอกสารด้วยค่าาา :D
5. ขั้นตอนการสมัครขอวีซ่า UK
การยื่นคำร้องขอวีซ่าเข้า UK ทุกประเภทจะต้องทำตาม 5 ขั้นตอนนี้ คือ
- กรอกข้อมูลและอัปโหลดไฟล์เอกสาร ได้ที่สมัครวีซ่า
- เมื่อน้อง ๆ กรอกข้อมูลในเว็บไซต์ใกล้เสร็จแล้ว น้อง ๆ จะต้องเลือกศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (Visa Application Center) พร้อมทั้งวันและเวลาที่สะดวก ในการไปติดต่อทำเรื่องขอวีซ่าด้วยค่ะ
- เมื่อสมัครออนไลน์เรียบร้อยแล้ว น้อง ๆ จะต้องปริ้นเอกสาร 3 อย่าง คือ
- Appointment Confirmation คือ เอกสารที่บอกสถานที่ วัน และเวลาที่เราเลือกไปขอวีซ่า
- Document Checklist คือ รายการเอกสารที่ต้องใช้ เวลาไปยื่นที่ศูนย์ฯ เจ้าหน้าที่จะเช็คว่าเรามีเอกสารครบมั้ย
- หลักฐานการจ่ายเงิน
- จากนั้นนำเอกสาร 3 อย่างด้านบน พร้อมกับพาสปอร์ตตัวจริงและฉบับสำเนาไปยื่นตามสถานที่และวันเวลาที่เราจองไว้ เพื่อถ่ายรูปและสแกนลายนิ้วมือ (Biometric Information)
- หลังจากทำ Biometric Information แล้ว จะมีสัมภาษณ์สำหรับคนที่ยื่นขอวีซ่า 2 ประเภท คือ
- Student visa
- Child Student visa (เฉพาะน้อง ๆ ที่อายุ 16–17 ปี)
6. ยื่นขอวีซ่า UK ได้ที่ไหนบ้าง ?
ในประเทศไทยจะมี VFS (Visa Facilitation Services Global) ซึ่งเป็นเอเจนซี่ที่สถานทูตอนุญาตให้บริการเรื่องการขอวีซ่าอยู่หลายที่ แต่ส่วนมากคนที่ขอวีซ่า UK จะยื่นที่ VFS ตึกเทรนดี้ สุขุมวิทกันค่ะ หรือถ้าหากน้อง ๆ ไม่สะดวกสมัครที่ VFS สาขาสุขุมวิท ก็สามารถหาที่ที่สะดวกตามลิงก์นี้ได้เลยนะคะ ศูนย์รับยื่นคำร้องขอวีซ่า
เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับข้อมูลประเภทวีซ่า เงื่อนไขและการสมัครแบบละเอียดยิบบบ ที่พี่ ๆ BACCOM สรุปมาให้ ชนิดที่อ่านจนจุกกันไปข้างงง :DD พี่ ๆ หวังว่าบทความนี้ จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลเรื่องวีซ่าเรียนต่ออยู่นะคะ
ถ้าใครอ่านแล้วรู้สึกไม่ไหวกับการเตรียมเอกสารและขั้นตอนการสมัครที่เยอะแยะไปหมด ทาง BACCOM เราก็มีบริการดูแลเรื่องการทำวีซ่าด้วยนะคะ น้อง ๆ สามารถติดต่อมาให้ทางพี่ ๆ ช่วยจัดการและให้คำแนะนำได้เลยค่ะ หรือถ้ามีข้อสงสัยตรงไหนอยากสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ก็สามารถทักมาหาพี่ ๆ BACCOM ได้เลยค่าาา
🏡 เรื่องที่พักในอังกฤษให้ BACCOM ดูแล 🇬🇧 ครบทุกบริการที่ต้องการ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย 💕
💚 LINE ID : @baccomuk
💙 Facebook : BACCOM UK
❤️ Youtube: BACCOM UK
📩 Email: hello@baccom.co.uk
☎️ UK Call : +44 7400 902 392
☎️ TH Call : +66 62 656 9422
🔗 ดูบริการอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่
Website : www.baccom.co.uk